ครูริชชี่ ตื่นรู้สัจธรรม พลังบุญ พลังบวก พลังความสุข สร้างโชคดี-ปาฏิหาริย์
Facebook Page: ครูริชชี่ ตื่นรู้สัจธรรม พลังบุญ พลังบวก พลังความสุข สร้างโชคดี-ปาฏิหาริย์
Since August 21, 2019
by ครูริชชี่
หมวดหมู่ :
ครูริชชี่-ตื่นรู้สัจธรรม
เมื่อตื่นรู้สัจธรรม เรียนรู้และฝึกปฏิบัติ
ทำให้
1. ทุกสิ่งคลี่คลาย-กลายเป็นดี
2. เป็นคนโชคดี-ในทุกสถานการณ์
3. เปลี่ยนตนเอง-มีชีวิตใหม่ราวปาฏิหาริย์
แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. Universal Law กฎแห่งจักรวาล
ปัญญา-ความรู้ที่เป็นสัจธรรมสากล ที่คนทั่วโลกใช้ได้ผลมาแล้ว
และส่งต่อกันมาในโลกตะวันตก
ได้แก่ กฎแรงดึงดูด (The Law of Attraction)
การพูดจูงจิตตนเอง (Affirmation / Self-Talk)
การซาบซึ้ง-สำนึกคุณ (Gratitude)
ความรู้นี้จะเป็นเครื่องมือให้กับเราในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสำเร็จ
2.
Buddha's Word รวบรวมปัญญาความรู้ที่มาจากคำพุทธะ 2600 ปี (พุทธวจน)
(เฉพาะส่วนที่เป็นประโยขน์กับฆราวาส)
ประวัติ-ความเป็นมาพุทธวจน ถูกบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกโดยพระอรหันต์ 500 รูป
ที่มาประชุมเพื่อสังคายนา รวบรวมคำสอนของพุทธะเป็นหมวดหมู่
หลังจากปรินิพพาน เพียง 21 วัน
มีพระมหากัสสปะ เป็นประธานในการสังคายนา
จากนั้น พ.ศ. 234 พระเจ้าอโศกมหาราช
ส่งสมณทูต เพื่อเผยแพร่คำพุทธะไปทั่วโลก
ทั้งหมด 9 สาย และ สายหนึ่งมาถึงดินแดนสุวรรณภูมิ
ที่เป็นดินแดนแถบประเทศไทยและพม่า ในปัจจุบัน
คำพุทธะได้ถูกจารึกลงในใบลาน เป็นภาษาบาลี ด้วยตัวอักษรขอม
ถูกรักษา สืบทอดต่อๆกันมาโดยพระมหากษัตริย์
ตั้งแต่สมัย สุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์
ต่อมา พ.ศ. 2331 ในยุครัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1
ทรงรวบรวมขึ้นมาใหม่โดยขอยืมพระไตรปิฎกจากลาว รามัญ
มาให้พระภิกษุสงฆ์ คัดลอกลงในใบลาน เป็นภาษาบาลี ด้วยตัวอักษรขอม
ทำให้เรามีพระไตรปิฎกเป็นของประเทศ ถูกเก็บรักษาไว้ในหอมณเฑียรธรรมในวัดพระแก้ว
ต่อมา พ.ศ. 2436 รัชกาลที่ 5 ทรงเห็นความสำคัญของคำพุทธะที่กำลังจะสูญหาย
หรือถูกแต่งเติมเสริมโดยสาวกต่างๆ
จึงทรงให้มีการสังคายนา และพิมพ์เป็นหนังสือพระไตรปิฏกเล่มแรกของโลก
เรียกว่า
พระไตรปิฏก ฉบับ จปร. อักษรสยาม ร.ศ.112 (พระไตรปิฎกฉบับตราแผ่นดิน)
คือเป็นภาษาบาลี แต่ทรงเปลี่ยนมาบันทึกเป็นอักษรไทย
ต่อมา พ.ศ. 2470 สมัยรัชกาลที่ 7
ทรงให้ทำสังคายนา รวบรวมจัดทำเป็น
พระไตรปิฏก ฉบับสยามรัฐ ภาษาบาลี อักษรสยามจำนวน 45 เล่ม
ต่อมา พ.ศ. 2500 สมัยรัชกาลที่ 9
ทรงให้ทำเป็นพระไตรปิฏก
ฉบับภาษาไทยครั้งแรกของโลก
เพื่อฉลองพุทธศตวรรษ จำนวน 80 เล่ม
ต่อมา พ.ศ.2514 สมัยรัชกาลที่ 9
มีการพิมพ์เป็นพระไตรปิฏกภาษาไทย จำนวน 45 เล่ม
เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองราชย์ 25 ปี (รัชดาภิเษก)
เรียกว่า
พระไตรปิฏก ภาษาไทย ฉบับหลวงต่อมา พ.ศ. 2530 สมัยรัชกาลที่ 9
มีการสังคายนาพระไตรปิฏก เพื่อเป้นการเฉลิมพระเกียรติที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ
เรียกว่า
พระไตรปิฏก ฉบับสังคายนา ในพระบรมราชูปภัมภ์ จำนวน 2530 ชุด
แจกจ่ายไปยังวัดหลวง สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการต่างๆ ทั่วประเทศ
จะเห็นว่า พระมหากษัตริย์ไทย ทรงเห็นความสำคัญของบันทึกพระธรรม-คำสอนที่ถูกต้อง
จริงแท้จากพุทธะ จึงรักษา ปกป้อง สืบทอด ส่งต่อกันมาในแต่ละสมัย
รัชกาลที่ 1 ทรงรวบรวมคัดลอกลงในใบลานภาษาขอม
รัชกาลที่ 5 ทรงริเริ่มให้บันทึกเป็นอักษรไทย
รัชกาลที่ 9 ทรงให้มีการแปลเป็นภาษาไทย
ดังนั้น คำสอนพุทธะ ที่แท้จริงนี้ จึงมาจากบันทึกที่เป็นหลักฐานสำคัญ
ที่ถูกส่งมาจากอินเดียและดูแล รักษา สืบทอด ส่งต่อกันมา โดยกษัตริย์
เพื่อให้ประชาชนคนไทยได้มีโอกาสทราบและศึกษาคำสอนที่แท้จริงของพุทธะ
ในปัจจุบัน เราไม่สามารถปฏิเสธว่า ไม่รู้คำสอนที่แท้จริงของพุทธะ
เพราะมีแปลเป็นภาษาไทยแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. 2514 คือ ฉบับหลวง
และฉบับ ฉบับสังคายนา ในพระบรมราชูปภัมภ์ พ.ศ. 2530
คำสอนที่มีคุณค่าต่อมวลมนุษยชาติจากพระพุทธเจ้า มีอยู่แล้วในแผ่นดินไทย
และถูกแปลเป็นภาษาไทยให้เสร็จสรรพ
พร้อมให้คนไทย ได้ศึกษาและนำมาปฏิบัติ
ครูริชชี่ จึงเป็น 1 ในคนไทย ที่เป็น 1 ในพุทธบริษัท
ที่อาสาทำงานนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่และส่งต่อ
องค์ความรู้ที่เป็นสัจธรรม-คำพุทธะ
ให้แก่คนไทยให้ได้มากที่สุด
เพื่อให้ตื่นรู้ความจริงว่า พุทธะสอนอะไร และไม่ได้สอนอะไร
เราจะได้รู้เส้นทางที่ถูกต้องตามคำสอนที่แท้จริง
ละทิ้งสิ่งที่ไม่ได้สอน
และหันมาเดินตามแผนที่และเส้นทางที่พุทธะได้ทำไว้แล้ว
ในฐานะที่เป็นฆราวาส (ไม่จำเป็นต้องไปบวช)
ถามว่า เราจะต้องรู้คำพุทธวจน ไปเพื่ออะไร
คำตอบคือ เพื่อตัวเราเองมีความสุขสงบ
สร้างความเจริญให้กับชีวิต
พัฒนาจิตตนให้เป็นอริยะ เพื่อมีความปลอดภัยไปถึงโลกหน้า
(รอดพ้นจากนรกอบายภูมและหลุดพ้นไปจากระบบของกรรมได้ในที่สุด)
เพื่อให้สมกับที่พุทธะได้ทรงเสียสละ พากเพียร
ในการแสวงหาความรู้-วิธีหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
และทรงมีพระเมตตาสั่งสอนสัตว์โลกให้รู้ตามและหลุดพ้นด้วย